ไม่มีอะไรที่จะสื่อถึงอิตาลี ได้ดีเท่ากับพิซซ่า ?หากคุณได้ลองชิมพิซซ่าจากเตาอบสักครั้งจะทำให้คุณนั้นหลงใหลอย่างแน่นอน ! มะเขือเทศซานมาร์ซาโน่มีต้นกำเนิดจากเมือง SanMarzano Sul Sarno ใกล้กับเมืองนาโปลี, ประเทศอิตาลีเป็นแหล่งต้นกำเนิดในการปลูกมะเขือเทศซานมาร์ซาโน่ที่ปลูกบนผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ในเขตภูเขาไฟ Vesuvius ในปี ค.ศ.1770 มีความเชื่อโดยทั่วไปที่ว่ากับว่าเมล็ดพันธุ์แรกของมะเขือเทศซานมาร์ซาโน่ จะมาจากแคว้นคัมปาเนีย เพื่อใช้มอบเป็นของขวัญจากเขตอุปราชแห่งสเปนถึงราชอาณาจักรนาโปลี ซึ่งนั่นทำให้เมล็ดพันธุ์แรกของมะเขือเทศซานมาร์ซาโน่ถูกปลูกในพื้นที่ของเมือง San Marzano Sul Sarnoไม่มีอะไรที่จะสื่อถึงอิตาลี ได้ดีเท่ากับพิซซ่า ? หากคุณได้ลองชิมพิซซ่าจากเตาอบสักครั้งจะทำให้คุณนั้นหลงใหลอย่างแน่นอน ! มะเขือเทศซานมาร์ซาโน่มีต้นกำเนิดจากเมือง San Marzano Sul Sarno ใกล้กับเมืองนาโปลี, ประเทศอิตาลี เป็นแหล่งต้นกำเนิดในการปลูกมะเขือเทศซานมาร์ซาโน่ที่ปลูกบนผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ในเขตภูเขาไฟ Vesuvius ในปี ค.ศ.1770 มีความเชื่อโดยทั่วไปที่ว่ากับว่าเมล็ดพันธุ์แรกของมะเขือเทศซานมาร์ซาโน่ จะมาจากแคว้นคัมปาเนีย เพื่อใช้มอบเป็นของขวัญจากเขตอุปราชแห่งสเปน ถึงราชอาณาจักรนาโปลี ซึ่งนั่นทำให้เมล็ดพันธุ์แรกของมะเขือเทศซานมาร์ซาโน่ถูกปลูกในพื้นที่ของเมือง San Marzano Sul Sarno

ย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 18 พิซซ่าถูกทำขึ้นมาจากขนมปังแบนๆ จากพ่อค้าหาบเร่ โดยขายให้กับคนจนตามท้องถนน โดยจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสู่ความนิยมในปัจจุบันคือ การนำเอามะเขือเทศมาเป็นหน้าพิซซ่าโดยชาวนาโปลี โดยเรื่องราวนี้ถูกรับรองในปี ค.ศ.1889 จากราชินีมาเกอริต้า ออฟ ซาวอย ( ราชินีแห่งราชอาณาจักรอิตาลี ) เมื่อคนทำขนมนามว่า ราฟฟาเอล เอสโปซิโต ได้ถูกเรียกตัวจากราชินีมาเกอริต้า ออฟ ซาวอยให้ไปอบขนมปังให้พระองค์นั้น ราฟฟาเอล เอสโปซิโตได้สร้างสรรค์เมนูที่ปัจจุบันนี้มีชื่อเสียงระดับโลก คือ พิซซ่ามาร์การิต้า พิซซ่าที่อ้างอิงมาจากสีธงชาติของประเทศอิตาลี โดยสีแดงถูกทำมาจากมะเขือเทศซานมาร์ซาโน่ สีขาวจากมอซซาเรลลา และสีเขียวจากใบโหระพา โดยปัจจุบันห้องอาหารมาร์ซาโน่ พิซเซอเรียยังคงสืบสานในการทำพิซซ่าแบบดั้งเดิม ด้วยการอบพิซซ่าด้วยเตาอบ ใส่ใจกับการทำแป้งของพิซซ่า และการทำหน้าพิซซ่าตามฤดูกาล – โดยมีวัตถุดิบที่ดีที่สุดเช่นชีสที่ทำจากแฮนด์เมด, มะเขือเทศที่ดีที่สุด, เนื้อสัตว์ที่เผ็ดที่สุด และใบโหระพาแบบสดใหม่

ห้องอาหารมาร์ซาโน่ พิซเซอเรีย ใส่ใจกับการทำพิซซ่าในแบบของชาวนาโปลี ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมแป้งพิซซ่า ซึ่งเคล็ดลับในการเตรียมแป้งนั้นส่วนผสมจะประกอบด้วย น้ำ, เกลือ, แป้งและยีสต์ ห้องอาหารมาร์ซาโน่ พิซเซอเรียใช้แป้งที่มีความละเอียดมาก นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้แป้งน้ำหนักเบาที่สุด หากพูดถึงสูตรของชาวนาโปลี แบบดั้งเดิมนั้น ชาวนาโปลีจะใช้น้ำจากเมืองนาโปลี เป็นกุญแจสำคัญในการทำ และไม่ใช้น้ำมันในการทำ เนื่องจากหากใช้น้ำมันในการทำแป้งพิซซ่าจะไม่พอง และไม่สามารถอบด้วยความร้อนสูงได้

ยิ่งไปกว่านั้นที่ห้องอาหารมาร์ซาโน่ พิซเซอเรีย ยังใช้เนื้อสัตว์ที่เพาะพันธุ์ในท้องถิ่น หรือเนื้อสัตว์ที่นำเข้ามา โดยจะถูกคัดสรรค์โดยเชฟ เพื่อให้ได้รับเนื้อที่ดีที่สุด โดยเนื้อย่างที่ดี จะต้องใช้ความรู้และทักษะ ในการย่าง เพื่อให้คนรักเนื้อได้ลิ้มรสกับเนื้อที่นุ่มและฉ่ำที่สุด

อีกหนึ่งเมนูที่ต้องลองกับเมนูที่อร่อยมากๆ คือ พิซซ่าม้วน Baci Four Cheese ซึ่งทำมาจากแอปเปิ้ลเขียว, ชีสกอร์กอนโซล่า, พาร์มิซานชีส, ชีสมอซซาเรลลา, ใบอลูโกล่า ร็อคเก็ต และน้ำส้มสายชูบาลซามิก โดยชีส 4 ชนิดนี้เป็นที่สุดแห่งความอร่อยและละลายในปาก

อาหารจานเด็ดอีกจานของห้องอาหารมาร์ซาโน่คือ สปาเก็ตตี้อาราเบียตต้า สปาเก็ตตี้เผ็ดที่ทำจากใบโหระพาสด, พริกแดง, มะเขือเทศซานมาร์ซาโน่, น้ำมะนาวและพริกไทยดำ เป็นจานเด็ดอีกจานหากคุณชื่นชอบอาหารอิตาเลียนพร้อมความเผ็ด ต้องลอง !

ห้องอาหารมาร์ซาโน่ พิซเซอเรีย ให้ความใส่ใจในการทำอาหารทุกขั้นตอน เพื่อให้อาหารทุกจานมีวัตถุดิบ และรสชาติที่ดีที่สุดห้องอาหารมาร์ซาโน่ พิซเซอเรีย ให้ความใส่ใจในการทำอาหารทุกขั้นตอน เพื่อให้อาหารทุกจานมีวัตถุดิบ และรสชาติที่ดีที่สุด

ห้ามพลาดกับ Koh Samui Events 2023 ทุกคืนของวันพฤหัสบดี และวันอาทิตย์ มีการแสดงโชว์ควงไฟบริเวณหน้าหาดเฉวง แล้วพบกันที่ห้องอาหารมาร์ซาโน่ พิซเซอเรีย